วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2555

งานแสดงสินค้า งานแสดงสันดาน

   เป็นที่รู้ๆ ทราบๆ กันดีว่าบ้านเราเมื่องนี้มีงานแสดงสินค้าบ่อยมาก ผมขอนับรวมหมดครับไม่แบ่งแยกงาน แสดงบ้าน รถ พืชสวน การท่องเที่ยว ฯลฯ หลายคนอ่านแค่ย่อหน้าแรกคงคิดในใจว่า "เอาอีกแล้วมึงมาด่าอีกแล้ว" ถูกครับ....แต่ไม่ใช่ว่าผมไม่สนับสนุนหรือไม่ชอบการจัดงานเหล่านี้ครับ ชอบครับชอบมากด้วยกล้าบอกด้วยเลยว่าไปเดินบ่อยครั้งและเกือบทุกงานเสียด้วย ถึงแม้บางงานจะจัดบ่อยม๊าก...ก  ยิ่งบางงานจัดเพื่อสนับสนุน และแสดงถึงความสามารถของพี่น้องเกษตรกรไทย และภูมิปัญญาไทยผมยิ่งสนับสนุน เพราะฉะนั้นผมไม่ได้มาบ่นคนจัดงานและผู้มาแสดงสินค้าในงานเลยครับ แต่....ทุกงานครับ!!!

ขอบคุณภาพจาก http://news4apps.truelife.com/blog2/entry/29028

    จบย่อหน้าแรกที่ทุกงาน ช่ายครับทุกงานจะประสบความสำเร็จหรือลุล่วงตามวัตถุประสงค์ไปมิได้เลยถ้าหากขาดพวกเขาเหล่านี้ รวมถึงผมด้วย คือคนที่มาเข้าชมงาน หรือเรียกแบบบ้านๆเลยคือคนมาเดินเที่ยวในงานนั่นหละครับ ไม่ว่าจะมาเดินเลือกซื้อสินค้า มางานเพื่อเดินชมนิทรรศการณ์ที่จัดขึ้น มาเดินเล่นเฉยๆเดินเอาแอร์ เดินกับคนรักประหนึ่งปานว่าเดินเล่นพรอดรักกันที่ชายหาดอันแสนสวย(มีนะไม่ใช่ไม่มีลองสังเกตดูเอาครับ) หรือ ในห้าง เดี๋ยวทั้งหมดนี่ผมจัดให้

    สิ่งที่เราจะพบจะเจอตามห้าง ข้างทาง สะพานลอย ตลาดนัด ฯลฯ นึกอะไรออกนึกกันตามสบายเลยนะครับ(ไม่ปิดกั้นทางความคิด) เรียบเรียงได้ดังนี้เลยครับ
  1. พวกเดินแล้ว Social+ เป๊ะปะ เดินไม่ดูของดูงาน ดูแต่ IPAD IPHONE แล้วก็ TABLET คือเดินไป Facebook Twitter BB ไปเรื่อย หรือบางที่พี่ล่อ Check in ทุกบูธ บอกตามตรงผมไม่ว่าหรอกครับบางทีผมก็ทำ แต่อย่าให้มันเกินพอดี มาเดินชมมาเดินดูงานนะครับ ไม่ได้มาเก็บแต้ม มางานแล้วปฏิบัติแบบนี้ อยู่บ้านเถอะขอร้อง บอกตามตรงบางทีขวางทางครับขวางมาก หัดดึงเอาไอ้สิ่งที่เคยเรียนมาเอามาใช้บ้างครับ บางคนเขาต้องการมาดู หรือ มาซื้อของจริงๆ เขาเข้าไปเลือกไม่ได้เลยครับ ก็คุณมึ........ง เล่นยืนขวางแต่ไม่ได้ดูของนี่ครับ
  2. พวกช่่างกล้องอาชีพ คือประมาณว่าถ่ายแต่พริตตี้เป็นอาชีพ งานเขาจัดแสดงต้นไม้ กูก็จะถ่าย นม นม และ นม...ม งานเขาจัดแสดงรถแทนที่จะถ่ายรถก็ถ่ายพริตตี้ เคยสังเกตกันไหมครับ งานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ หรืองานสัปดาห์หนังสือที่ไม่มีพริตตี้ จะไม่ค่อยพบเจอพวกช่างกล้องมืออาชีพเหล่านี้ ถ้าพวกที่มาจากหนังสือพิมพ์ หรือสำนักพิมพ์ที่เอาข่าวไปลงผมจะไม่ว่าเลย มันเป็นสีสัน แต่เอ มันเยอะไปป่าวมาจากสำนักพิมพ์หรือสำนักข่าวไหนครับเพียบเลย ถ้าลองเอาหัวหนังสือมาให้ถือคนละเล่มผมว่าไม่พอกับตากล้องครับ เยอะจัด ถามว่าผมเคยไหม เคยนะ แต่ก็ไม่เจาะจงทุกคนไป บางคนแต่ตัวไม่สวยไม่โดน หน้าตาไม่ถูกใจผมก็ไม่ถ่ายบอกกันตามตรง เลยนึกเป็นคำถามได้ว่า ไอ้ที่ถ่ายทุกงาน พวกพี่เอาภาพไปทำอะไร เยอะนะ แล้วเอาเก็บไว้ไหนกัน แล้วเอาไปทำอะไรกัน เอาไปดูระลึกอะไรเหรอครับ? เหมือนเดิมถ่ายได้ครับแต่อย่าขวางหรือทำตัวเป็นอภิสิทธิ์ ถือกล้องกูเลยทำอะไรได้ตามใจ สั้นๆ พี่ขวางผมจะดูนมเหมือนกัน ไอ้เวร...!!
  3. พวกมาเดินโชว์โทรศัพท์หรือเดินคุยโชว์ ประมาณว่า เรื่องกูจะเป็นชู้กับเพื่อนเมีย พ่อเพื่อนมีเมียน้อยเป็นญาติโก โหติกา น้องชายจะไปล่อลวงคนใช้บ้านข้าง ๆ จะต้องมาคุยมาปรึกษากันในงานถ้าไม่ได้บรรยากาศเดี๋ยวสมองแม่งไม่แล่นกัน คิดและให้คำปรึกษาไม่ได้ พวกนี้จะคุยๆ เดินๆ หยุดๆ จับนู้น นั่น นี่ แต่ไม่ซื้อไม่สนใจ หยิบแตะ เจิมให้เป็นพิธีแล้วเดินผ่านไป  นั่งอยู่กับที่หรืออยู่ที่บ้านมันคิดไม่ออก เดินตามแล้วปวดกบาล ไม่ได้เดินตามหรอกนะครับแต่พวกนี้มันเดินไปเรื่อยอย่างที่บอก เดินๆเห็นหลังไวๆ ว่าไปบูธนั้น หันมาอีกที ว้ายมาอยู่หน้ากูซะละ 
  4. ตามมาติดๆ พวกเดินจูงมือกัน ประมาณว่าถ้าปล่อยอีกฝ่ายจะมลายหายไป หรือจะหนีไปมีชู้ พวกนี้จับมือกันแบบไม่ยอมปล่อยกันครับ คือบอกตามตรงผมไม่ว่านะครับ เข้าใจ แต่ ไอ้ที่เดินแบบช้า ๆ คุยกันแบบในโลกในงานนี้มีกูอยู่ 2 คน ในสวน อีเวร(สวนนี้อยู่ข้างๆสวนอีเดนครับ) เดินกันไปเหมือนเดินชายหาด แบบ "มีเพียงหาดทราย ทะเล สายลม กับสองเรายินเพียงแผ่วเบา ยินเพียงเสียงคลื่นกับเสียงเรา นกน้อย บินมาคู่กัน เคียงกัน  เหมือนดังใจเราผูกพัน....(เอาให้จบเพลงเลยดีม๊ะ) อยากเดินไปสะกิดแบบที่เขาด่าๆ กันเวลาเห็นคนกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันว่าไหงมึงไม่ไปเปิดโรงแรมเอ....ากันซะเลย ก็บอกอีกตามตรงไม่ได้ว่า แต่พี่ปล่อยมือบ้างก็ได้ึครับ บางทีึคนเขาเดินมาเขาต้องหลบให้ หรือหิ้วของมาหนักๆ ก็ต้องหลบให้ คุณสองคน ก็จูงมือแบบกั้นไม่ให้เขาผ่านไปได้เลย ถามจริงไม่รู้สึกว่ามันขวางคนอื่นเขาบ้างเหรอครับ "อ๋อไม่รู้สึุก?"
  5. กรณีนี้ที่จริงไม่อยากพูดครับเดี๋ยวหาว่าผมใจแคบ ครอบครัวเขารักกันมากันพ่อ แม่ ลูก แล้วยังจะมาหาเรื่องว่าแดกครอบครัวเขาอีก สันดานเสีย (ครับผมยอมรับ) แต่บางทีมางานบางงานไม่น่าพาลูกมานะครับถ้าคุณ รักลูกคุณจริงๆ ผมเห็นบางทีเด็กเล็กมาก ก็พาม....แบบกูคลอดปุ๊บหมอให้ออกจาก โรงพยาบาลได้ กูมาเลย(ถามจริงคุณคิดว่าถ้าหมดงานนั้นๆ แล้วของมันจะไม่มีเหรอครับ !! อ๋อไม่ได้ของแถม) ผมสงสารเด็กครับบอกตามตรงเจอทุกงาน ไม่เข็นรถเด็กก็หลับไป ไม่ก็อุ้ม  หนักเข้ามีพี่เลี้ยงอุ้มเดินตามด้วยและก็เด็กหลับ ใครที่เดินงานก็รู้ เสียงดังมากคงไม่ต้องอธิบายนะครับ ผมถามจริงถามหมอ หรือ หาอะไรใส่สมองบ้างไหม ไม่ใช้ไว้มีให้สันดานเลวๆไปฝังอยู่ เสียงดังๆ ตามงานที่คุณพาเด็กไปมันไม่เป็นสิ่งที่ดีสำหรับเด็กเลยนะครับ คุณรักลูกคุณจริงหรือ รักยากโชว์ว่าครอบครัวน่ารักพ่อแม่ลูก พากันมาเดินชมงานพาลูกไปซื้อ ไปดู เด็กตายังลืมไม่ขึ้นเลยเขาจะเห็นไหมคับ  ตรงกันข้ามมันยังเป็นการทำร้ายลูกคุณทางอ้อมด้วย มาถึงข้อนี้บางคนมีเถียงผมครับก็เขาไม่มีเวลาไป ไม่มีคนเลี้ยงลูก ผมถามซักคำ รักลูกจริงรอหน่อยดิงานไม่ได้มีแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ให้เขาโตกว่านี้ค่อยมาได้ไหม ของจำเป็นต้องซื้อเหรอ ตัวอย่าง เครื่องเสียงนี่ที่บ้านไม่มี ไม่ได้พังแล้วจะชักดิ้นชักงอตาย โทรศัพท์ถ้าไม่ได้อัพเดทไม่ได้เปลี่ยนเครื่องแม่ยายจะยกมรดกให้บ้านข้างๆ? 
  6. ประเด็นสุดท้ายต้องกล่าวถึงพ่อแม่ง อุ๊บ ขออภัย แม่ พี่ ป้า นา อา อา...พอแค่นี้ดีกว่า พี่พา ลูกๆ หลานๆ มางาน ขอเถอะครับ อบรม หรือดูแลเขาหน่อย แบบว่า งานครับ งานนี้เขาจัดกัน ไม่ใ้ช่ที่สนามเด็กเล่น ไม่ได้เป็นสวนสาธารณะ คือพามาได้แต่ดูแลหน่อย ไม่ใช่ พามาแล้วก็ปล่ิอยวิ่งเล่น กันซะงั้น คนอื่นอาจจะมอง น้องน่าีรัก น่าเอ็นดู ไม่ใช่ผมครับผมมันคนเลวคู่กับเด็ก....เด็กเวร แต่ถ้าจะด่าก็ ผู้ใหญ่ที่พามานี่หละครับ ทราม ไม่ดูแลไม่สั่งสอน...แล้วพามาทำไมมันไม่ใช่ห้างไม่ใช่สนามเด็กเล่น
    ครับเพื่อนๆ ที่ตามอ่าน Blog มาตั้งแต่แรกๆ ที่ผมเริ่มเขียน ลองย้อนนึกดูนะครับ เคยเจอแบบนี้ไหม แล้วรู้สึก รำคาญใจกับ พฤติกรรมเหล่านี้บ้างไหม หรือ เคยทำบ้างไหม ถ้าทำก็ลดๆ ลงหน่อยเถอะนะครับ ที่ผมเขียน "ตอน" ช่ายมะเขาเรียกว่า...ตอน? อ๋อ ไม่ดิบทความ "งานแสดงสินค้า งานแสดงสันดาน" ก็ล่าสุดครับ Commart นี่หละครับ ผมกำลังดู Gadget ที่มาโชว์ในงาน ก็ต้องยอมรับครับน่าสนใจนะมีคนดูพอสมควร คู่กรณีก็แถ ๆ มากะลูก ผมจำไม่ได้ว่าพูดว่ายังไง น่าสนใจมาก หรือว่า ยังไง บอกตามตรงไม่ไ้ด้ว่านะครับเข้ามาดูกันได้ ผมก็ยืนต่อรอดูอยู่ พอคนที่ทดลองคนแรกเสร็จผมก็เข้าไปดู ก็เป็นจังหวะที่เด็กนรก (ขอด่าละกัน) เดินมาถึงแล้วก็ ดันผมพร้อมกับ เหยียบตีน ครับ ไม่ต้องเท้าแล้ว ตีนนี่หละ พร้อมกับประโยคที่ผมจำไม่ได้ เพราะว่าโมโหครับ โมโหที่ คุณแม่ง เองก็ไม่สั่งสอนลูกเดินมาดันผมซะด้วย แล้วก็ จับ เล่นกันกับลูก(แม่ลูกน่ารักมาก) เออเอากับเขาซิครับ คุณแม่ง คุณลูก ผมหละด่าไม่ถูกเลยขนาดผม พูดว่าพูดประชดเสียงดังๆ ออกไป ว่ามารยาททั้งแม่และลูกดีจัง เหยียบเท้าคนแล้วยังไม่สนใจอีก ก็เอ้ยไม่สนใจครับ ผมหละอายแทนผมเลวช่ายไหมนี่แบบตกลงกูผิด ผมต้องอาย ผมมันเลว ผมมันโหไอ้นรก เด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้าถ้าผู้ใหญ่ในวันนี้เป็นสันดานแบบนี้ พูดได้คำเดียว "เหี้ยแน่ๆอนาคต"

จุดเกิดเหตุขอบคุณภาพจาก http://www.yokekungworld.com

    ที่ผมเขียนบทความนี้ขึ้นและลงในช่วงนี้เพราะว่าเพิ่งผ่านงาน Commart มาสดๆ ร้อนๆ และอีกไม่กี่วันก็จะถึงงานสัปดาห์หนังสืออีก ครับผมหวังว่าคนที่เข้ามาอ่าน Blog ของผม คงจะเป็นผู้เข้าชมที่มีมารยาท หรือไม่อย่างน้อยก็บอกกล่าว ตักเตือนคนข้างเคียง คนรัก คนรู้จัก เพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมโลกทั้งหมดทั้งมวลที่กำลังเตรียมตัวจะไปงานในอาทิตย์หน้า หรืองานต่อๆไป...จะบอก จะกล่าวกัน ตักเตือนอะไรก็ตามใจครับผมบังคับไม่ได้ และก็ไม่บังคับหรอกครับแค่มาบ่นก็ต้องขออภัยอย่างมากแล้ว ผมได้แต่หวังว่าคนในสังคมเราจะมีมารยาทที่ดีขึ้น ไม่ต้องมากแค่นึกได้ในส่วนลึกของหัวใจผมก็ดีใจ แบบที่เขากล่าวกันว่า “เพียงแวะเข้ามาชม เราก็แอบนิยมคุณอยู่ในใจ”

สุดท้ายใครก้ได้ตอบหน่อยงานนี้เกี่ยวอารายกับ ดร.สลัม 
ขอขอบคุณภาพจาก http://www.techxcite.com/topic/8840.html

    กะว่าจะไม่ยาวนะนี่...บทความครั้งนี้ถ้าแรง หยาบขออภัยแต่ระงับไม่ได้จริงๆ "เหนื่อยเหลือเกิน"

วันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2555

The Hunger Games เกมล่าเกม

ขอบคุณภาพจาก http://movie.sanook.com/ ขอหน่อยนะครับมันได้ใจมาก
   
    ไปๆมาๆ armopenmind จะเป็น Blog วิจารณ์หนังซะละ ต้องบอกก่อนเลยว่ายังไม่เปลี่ยนแนวครับ ทีแรกจะเขียนเกี่ยวกับร้านกาแฟ เพื่อนสนิทก็เขียนไปละ และก็เขียนได้ดีด้วยเลยบาย ไอ้ครั้นสันดานอย่างผมเขียนจะเป็นการด่าร้านกาแฟซะป่าวๆ จะเขียนวิจารณ์หนังก็บอกตามตรงบางทีไปดูมาประทับใจม๊าก...แต่ขี้เกียจเขียนซะงั้นพอจะมีอารมณ์เขียนนางเอกก็คงแก่ พระเอกพาลป่วยไปซะละ เลยมาเป็นแบบนี้หละ อารมณ์อยากเขียนก็เขียนตามแต่ใจตามแต่อารมณ์...เอิ๊กๆ ๆๆ ๆ ๆๆ และก็ต้องสารภาพตามตรง คนเขียนเมาเบียร์ 4 กระป๋องแล้วเพราะตั้งแต่เช้า สิ่งที่ตกถึงท้องคือเบียร์นี่หละ(เหตุผลคงไม่มีใครอยากรู้แต่อยากอ่านก็จัดไป....ลาบซึ้งมากๆๆ)

    ก็ต้องขอบคุณทรูวิชั่นกับไอ้ดวงห่วยๆหรือห่ามเหวอะไรไม่รู้ที่ได้ดูอีกละ เรียกว่าเบิ้ลซะงั้น แถมได้ดูด้วยอารมณ์ที่ เหมือนตัวเองเดียวดายด้วย แต่ก็อยากดูมาก เขาบอกว่าเรื่องนี้ดังมากติดอันดับหนังสือทำเงินมากกว่า--->แวมพายนายโคตรหล่อซะด้วย หรือไม่จริงไม่รู้คนเขียนมึน 555

    เข้าเรื่องแบบมึนๆ นางเอกของเราเสนอตัวเข้าไปเล่นเกมส์แทนน้อง เพราะว่า โชคชะตาไม่มีปราณีใคร(ไม่เล่นตลกก็เป็นปกติของปกติ) มีชื่อให้จับ 1 ชื่อ กับ 42 ชื่อ คนดวงเฮงมีชื่อ 1 ชื่อแถมครั้งแรกโดนซะงั้น ไอ้มีชื่อถึง 42 ชื่อแม่งจับไม่โดนซะงั้น นางเอกของเราจึงต้องรับกรรมแทนน้อง โหอายุ 12 มั้ง(ถ้าจำไม่ผิด) จะให้ไปสู้รบปรบมือกะใคร แค่ด่ากันก็เฉาตายแล้ว ใครเป็นพี่ไม่ออกรับแทนก็ประเสริฐละ บอกตามตรงเท่าที่ได้ดูฟรีมาหลายครั้ง(กราบงามๆTureVisions)ครั้งนี้ผมลุ้นมากแบบที่เรียกได้ว่ามันบีบหัวใจสุดๆ อย่านับหนังผีนะผมไม่ดู(ใครชวนดูตีตายเลย) นี่รวมกับเห็นคนเดินเข้าเดินออก มากผิดปกติ นึกในใจหนังไม่สนุกหรือมันบีบ.....บหัวใจมากไปหละนี่ ผมอะลุ้นมากขอบอกเรื่องแรก มันบีบใจมาก (แต่ไม่ขอเล่าละกันพรุ่งนี้ไปดูกันได้)มันทำให้นึกถึงว่าสมัยนี้ถ้าไม่กล้าแสดงออก ไม่สร้างความโดดเด่นนี่ไม่รอดแน่ครับกับสังคมสมัยนี้ เพราะขนาดที่เนื้อเรื่องของหนังกล่าวถึงการเอาตัวรอดของคนที่ต้องเข้าร่วมเกมส์มหาโหดอย่าง "Hunger Games" เครื่องบรรณาการทั้ง 12 เขตยังต้องทำทุกวิถีทางให้ตัวเองเด่นในเกมส์ เพื่อให้สปอนโง่ชอบและส่งของช่วยเหลือมาให้ ถ้าไม่งั้นมึงโดดเดี๋ยวไปเลย ขนาดตามบุคคลิกของนางเอกเป็นคนไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กันใครเท่าไหร่ยังต้องเปลี่ยนตัวเองเลยตั้งแต่เปิดตัวของตัวแทนในเขตที่ 12 ในชุด สาวน้อยผู้มากับไฟ...ไม่งั้นพูดสั้นๆม้วย ยิ่งเนื้อเรืองดำเนินไปยิ่งบีบหัวใจ มันโดนใจมาก ต้องบอกว่าสังคมมันเป็นแบบนี้ครับ คนดาดๆ อยู่ไปวันๆ ไม่ได้โงหัวหรอกในสังคม ถ้าไม่แน่จริงอย่าคิดจะเสนอหน้า...จบครับ จบแบบดื้อๆนี่หละที่เหลือไปดูเอาเองแบบงง งง แล้วกันกับ Blog ของผม อารมณ์ตอนนี้เหมือนคนเมาแล้วพูดมากอะครับ เขียนถึงเช้ายังได้ อย่ากระนั้นเลยเดี๋ยวพาลเล่าซะหมดจบดีก่า.....

ผมชอบภาพนี้มากมันกลายเป็นหนังรัก 3 เศร้าไปซะงั้น
ขอบคุณภาพจาก http://movie.sanook.com/ เหมือนเดิม

    ต้องบอกว่าคนอื่นดูแล้วผมไม่รู้ว่ารู้สึกยังไง สนุกเฉยๆเพราะมันเป็นแค่หนัง โดยไม่คิดอะไรหรือป่าวผมก็ไม่รู้ แต่สำหรับผมดูแล้ว มัน จิ๊ด ครับ เหมือน survivor เอามารวมกับ AF แต่หนักกว่าตรงที่การเอาตัวรอดจากสถานการณ์แบบในหนัง คนรวยและคนมีอำนาจคิดเกมส์เพื่อจำกัดสิทธิ์และปกครองคนที่ด้อยกว่าแบบทารุณ  (ลองดูเอาครับว่าสังคมในเรื่องมันเป็นแบบไหน) อยากรู้จริงๆนะะถ้ามันถึงยุคที่โลกเราแบ่งชนชั้นแบบนั้น ใครจะกล้าสมัครเข้าไปเล่นเกมส์แบบนั้นไหม ทั้งๆที่จบเกมส์ก็ดังและน่าจะมีเชื่อเสียงไม่แพ้ AF หรือ เกมส์โชว์ที่เราๆนั่งดูนั่งกด SmS ให้คนที่รักคนที่ชอบได้ผ่านเข้ารอบไป ใครมันจะอยากไปแข่งครับในเมื่อโผล่มาไม่ถึง 1นาทีก็ตายโหงซะละ ไม่มีแก้ตัวแบบให้กลับเข้าบ้านใหม่ แถมกฏยังเปลี่ยนได้อีกแบบ(เปลี่ยนเพื่อนสนองเรตติ้ง แต่...ถึงตาย) ผมมองว่าสังคมสมัยนี้มันก็คล้ายๆ หนังเรื่องนี้เข้าไปทุกที ๆ ผมชอบดูหนังฝรั่งไม่ใช่เพราะหัวสูงหรือ "กระแดะ" แต่ชอบตรงที่เขามีแง่คิดตลอด(หรือผมคิดไปเอง) ไม่เหมือนบ้านเราต้องรัก ๆ ๆ  วัยรุ่น ๆ ๆ  ไม่ก็ตลกลามก ไม่งั้นขายไม่ได้.... จบ 

X - MEN ผมดูแล้วได้มุมมองของสังคมระหว่าง ชาร์ลส์ ฟรานซิส ซาเวียร์ และ Maxneto

    ท้ายสุดหนังเทศไม่เหมือนบ้านเราครับทำหนังแบบสมเด็จพระ... (ไม่ขอพูดนะรู้กันเอาเอง) ก็มีโดนวิจารณ์ ทำหนังตีแผ่ศาสนาแบบ...เรื่องอะไรอะที่เต๋ากับ เรย์เล่น ก็โดนกลมกว่าจะผ่านได้(เมานึกไม่ออกจริงๆ)  เรื่องศพ>>>โวยวายก็โดนด่า นึกออกไปหาดูกันเอาเองครับจบอีกที!!!

เอานางเอกมาให้ดูครับอย่าถามนะทำไม จาก www. ไหนไม่ทราบแล้วแต่ขอขอบคุณครับ

    ปล.เพิ่งรู้ตอนมึนเมานี่หละว่านาเอก เล่น X - MEN ด้วย เรื่องนั้นดู SEXY มาเรื่องนี้ผมดูอวบนะ(นั่นแน่อย่าคิดไปไกลผมคิดแค่นั้นเอง)..บายครับ  อ้อทิ้งทายไปดูเอา มันเหมือนรัก 3 เส้าที่ต้องลุ้นว่านางเอกจะรักใครยังไงเพราะ เกมส์หรือ เพราะว่าคนที่ถูกเลือกรักจริงหรือทั้งหมดแค่การอยู่รอด.....

วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2555

จอมโจรสโนไวท์ กับ ราชินีบานฉ่ำ ปะทะ ซือเจ๊ไทยแลนด์ก๊อตทาเลนท์

ขอบคุณภาพจาก http://www.mcot.net/ (เขาไม่ให้ผมก็จะขอใช้)

    ต้องยอมรับยุคนี้มันยุคของคนกล้าแสดงออก ไม่งั้นเดี๋ยวไม่เด่น เดี๋ยวไม่ดัง ไม่ดูดีในสายตาชาวบ้าน  ไม่ดูแอ๊ปเป้ (เอ้ยแอ๊บแบ้ว) ใครหลายๆคนที่เฉียด หลง เผลอ เข้ามาอ่าน Blog หลายๆ คนคงด่าในใจว่า ไอ้ห่า ไอ้... และไอ้...ฯลฯ นี่แม่งขี้บ่น SHIFTผาย กี่เรื่อง ๆ แม่งบ่นหมด ก็ต้องยอมรับครับผมมันคนขี้บ่น ซึ่งอย่างที่บอกอีกหละครับ ผมไม่ใช่ผู้ดี หรือคนที่มีมารยาทแบบผ้าพับไว้ มิใช่ตระกูลผู้ดีเก่า ที่ต้องมีพี่เลี้ยง หรือเวลาจะเรียกต้องมีคำนำหน้าว่าคุณชาย หรืออย่างไร ดูตัวเอง ก็เป็นคนที่ทำตัวเสียมารยาทในสังคมซะด้วยในบางครั้ง แต่ไอ้ที่มาบ่น ๆ นี่บอกตามตรง ไม่เคยทำ และใครหลายๆคนเห็นผมตั้งหัวเรื่อง แล้วคงนึกในใจว่าเกี่ยวข้องอะไรกับ "ไทยแลนด์ก๊อตทาเลนท์" หรือป่าว!! ถ้ามีจะได้ลุ้น ๆ ให้ใันโดนฟ้ิอง ขออภัยที่ทำให้ท่านเสียใจครับ ไม่มีครับ ไม่เกี่ยวกันเลย ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องไม่มีใครที่ไปในรายการแล้วผมเอามาเอ่ยอ้าง เอหรือซือเจ๊แกจะไปมาหว่า!!!! ช่างแม้มเหอะ (เอว่าแต่เอามาใช้จะโดนไหมว่า ดีครับจะได้ดัง)...

    อย่างที่เกริ่นไปยุคนี้สมัยนี้มันเป็นยุคของการแสดงออก ใครที่สามารถเอาจุดเด่นของตัวเองออกมาเสนอให้สังคมรับรู้ได้ และโดนก็มีสิทธิ์ดัง ก็ต้องยอมรับครับเป็นเรื่องที่ดี และน่าชื่นชม ตั้งแต่เด็กเล็กตัวน้อย ไล่ ไปถึง ผู้สูงอายุ ไม่แบ่ง เพศ ชนชั้น เชื้อชาติ ทุกครั้งที่ผมได้รู้ ได้ดู ได้สัมผัส ผมบอกตามตรงผมก็ชื่นชมและนับถือครับ แต่ไอ้ที่น่าเสียดายที่บางครั้งพอเวลาผ่านไปคนเหล่านั้นกลับทำตัวให้ตัวเองเสื่อมเสีย เช่น ตอนเด็กนี่น่ารัก เก่ง เต้นเก่ง แสดงหนังดี มากความสามารถก็ว่าได้ แบบว่า BRON TO BE  แต่พอโตมาไอ้ชื่อเสียง เหล่านั้นกลับมาทำร้ายจิตใจตัวเองให้หลงระเริง ไปในทิศทางตรงกันข้าม ตอนเด็กที่ดูใสซื่อ บริสุทธิ์ พอโตมา เสียความ บริสุทธิ์(ทางจิตใจ) และ เสื่อมเสียชื่อเป็นว่าเล่น อันนี้ก็ต้องอยู่ที่ผู้ปกครองและตัวพวกเขาเองที่สามารถปรับตัวกับการตอบรับของสังคมได้ดีเพียงใด นั่นคงเป็นอีกด้านของการแสดงออกที่บิดเบี้ยว

    เดี๋ยวจะนอกเรื่อง Mirror Mirror เป็นหนังที่ผมไปดูมาล่าสุด ดูก่อนเข้าโรงฉายจริง มิใช่ว่าได้รับเชิญเพราะเป็นคนดังหรอกนะครับ เล่นเกมส์ของUBCได้มา (เอ้า??เอาซะแก่เลยเดี๋ยวนี้เขาเปลี่ยนเป็น TRUEVISIONS แล้ว) ต้องขอบคุณด้วยนะครับที่มีกิจกรรมดีๆ นอกเรื่องจนได้ Mirror Mirror หรือ จอมโจรสโนไวท์ กับ ราชินีบานช่ำ เป็นหนังดัดแปลงใหม่ที่ดูแล้วเพลินดีแปลกดี ถ้าเล่าไปเดี๋ยวนอกเรื่องบานฉ่ำกันพอดี แล้วจะเข้าเรื่องยังไงหละครับ เอาดื้อ ๆ แบบนี้เลยดีกว่า ขณะที่หนังกำลังเริ่มฉาย โดยเนื้อเรื่องก็เป็นการเกริ่นบรรยายเหมือนเล่านิทานทั่วไป และตอนที่กำลังเล่ากล่าวถึงคำที่ว่า Beautiful ข้างหลังผมก็มีเสียงของเจ๊ คนหนึ่งซึ่งผมระบุวัย และ อายุสมองไม่ได้ ก็เกิดอาการ เทพประทับประหนึ่งว่าตัวเองเป็นคนพากษ์เสียงไทย หรือ อยากจะโชว์สำเนียงว่า ดิฉัน เก่ง ปะกิต เจ๊แกลา......ก เสียงสูงน่ารักแอ๊ปแบ็วว่า บิ๊ว......วตี้ฟูลลลลลลล ออกมาซะดัง(กรุณานึกและจินตนาการเสียงตามเองนะครับ) ประมาณมั่นใจว่าเสียงตัวเองน่ารักถ้าไปลงแข่งไทยแลนด์ก๊อตทาเลนท์ จะต้องชนะเลิศแน่ๆ เพราะว่าเริ่ด กว่าใครในปฐพี กำของกู(เป็นสิ่งที่ผมคิดในใจ) ผมไม่ใช่คนดีนะครับอย่างที่บอกไปแล้ว แต่นี่มัน เป็นโรงหนังครับ ที่สาธารณะ ไม่ใช่ห้อง Home Theater ที่บ้านเจ๊นะครับ เจ๊ลืมไรไปป่าว คนเต็มเลยแหกตาดูดิ (ผมก็แหกตาควานหาที่มาของเสียงครับ) และหันกลับมาคิดในใจสงสัยแม่งเป็นครอบครัวเดียวกับน้องคนนั้นบนรถเมล์มั้ง กูเงียบดีกว่า...... การศึกษา ตำแหน่งหน้าที่การงาน และฐานะทางบ้าน มิทำให้คนเรามีมารยาทเลย ซักนิด

ที่ผมหันไปมองเพื่อเจ้าของเสียงบิ๊วววว...ตี้ฟลูลลลล..จะน่ารักแบบนี้
ขอขอบคุณภาพจาก http://www.judzeed.com/ (ถึงไม่ให้ผมก็ขอแสดงออกว่ายืม)

    ครับนี่หละนี่คือที่มาของหัวเรื่องของผมมันเป็นยุคของการแสดงออก แต่คนในสังคมบางคน บางกลุ่มแสดงออกมาแบบไม่มีมารยาท ซะงั้น (น้าเน็กขอยืมหน่อยนะคร๊าบบบบบ)

    ทิ้งท้ายซักติ๊ด ใครยังไม่ได้ดูก็ลองดูนะครับ ฉากจบเล่นเอาฮาเหมือนกันนึกว่าดูหนังอินเดีย ที่นางเอกของเราร้องเพลงซะงั้นดีที่ไม่วิ่งข้ามภูเขา แต่ก็ดูน่ารักไปอีกแบบ จะได้เจอเจ้าชายที่ต้องให้เจ้าหญิงจูบถอนคำสาปแทน แม่มดที่กินแอ๊ปเปิ้ลตาย แทนที่จะเป็นสโนไวน์ ต้องยอมรับว่าเขาเอานิทานเก่ามาบิดเรื่องได้น่าติดตามจนผมออกจากโรงแล้วมาคิดเอาว่าเอเนื้อเรื่องเก่าๆ ที่เคยรู้มามันเป็นยังไงหว่า

ปล.อันนี้หามาให้ครับ มารยาทดีๆ ในที่สาธารณะ

ในโรงภาพยนตร์           ควรปิดโทรศัพท์มือถือ หรือปิดเสียงโทรศัพท์ให้เป็นนิสัย และที่สำคัญ ไม่ควรคุยเสียงดัง หรือพากย์เนื้อเรื่องของหนังให้เพื่อนฟัง เพราะเป็นการเสียมารยาท และรบกวนอรรถรสในการชมภาพยนตร์ของคนข้าง ๆ ไม่ควรขบเคี้ยวอาหารเสียงดัง และไม่ควรนำอาหารกลิ่นแรง ๆ เข้าไปรับประทาน เพราะว่าเป็นการทำลายบรรยากาศของการชมภาพยนตร์อย่างมากแขน ขาก็เก็บให้เข้าที่เข้าทาง อย่าให้กระทบกับความสะดวกสบายหรือที่ทางของคนอื่น โดยเฉพาะคนข้าง ๆ และข้างหน้า ควรเข้าโรงภาพยนตร์ให้ตรงเวลา โดยเฉพาะเมื่อซื้อตั๋ว แถวกลาง ๆ เอาไว้

การพูดคุยในที่สาธารณะ           ไม่ควรพูดคุยเสียงดังในที่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นบนรถประจำทาง รถไฟฟ้า หรือที่ทำงานก็ตาม เพราะเป็นกิริยาที่ไม่สุภาพ เป็นการรบกวนคนรอบข้าง หรือถ้าเป็นในที่ทำงาน ก็อาจจะไปรบกวนการทำงานของเพื่อนร่วมงานได้ การกระซิบกระซาบกันในที่สาธารณะก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเช่นกัน เพราะคนอื่นอาจจะคิดว่าคุณนินทาเขาอยู่ก็ได้ จงพูดด้วยเสียงดังพอประมาณให้ได้ยินกันในวงสนทนาเท่านั้น และพูดกันแต่เรื่องที่จำเป็น อย่าพูดมาก สนุกเฮฮาจนเสียกิริยาหรือพูดเรื่องส่วนตัวจนคนอื่นได้ยินได้ฟังกันทั่ว
ข้อมูลจาก http://www.vcharkarn.com/varticle/39575

วันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2555

Smartphone Smartคน จนไม่มีมารยาท

    ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปสังคมที่เปลี่ยนไป หน้าตาของคนเขาก็เปลี่ยนไป ต้องยอมรับครับว่าผมเองนั้นเป็นคนหน้าบึ้งจนถึงขั้นบางคนมองว่าหน้าตาไม่รับแขก (ตอนรุ่นๆอาจารย์ยังเคยทักทำไมเห็นเดินตรงป้ายรถเมล์หน้าบึ้งจังวะ)แต่ถ้าลองได้คุยแล้วทุกรายต้องบอกว่า (น่าร๊ากก...อะ จริงๆนะ)และอีกอย่าง  ผมก็ไม่ได้บึงตลอดนะครับ ใครทักหรือช่วยถือของผมก็ยิ้มและขอบคุณทุกครั้งนะครับ แต่ผมเห็นสมัยนี้ทำไมคนเราหน้าตาไม่รับแขกกันเยอะรวมถึงหน้าออกไปทางหาเรื่องแขกซะด้วยซ้ำ (เดี๋ยวก็แขกตี้กัน พอดี)ทำไมต้องขึ้นต้นแบบนี้เหรอครับก็สด ๆร้อนๆเลย หลังจากที่ว่างเว้นไปเสียนาน  (โคตรนานเลยหละครับ) ผมก็มานั่งเขียนกันอีกรอบ เพิ่งมีอารมณ์อะ ติ๊ดแตก ก็ว่าจะเขียนผู้ใหญ่สันดานทรามซะหน่อย แต่บรรยากาศมันให้กับ Smartphone เสียจริงๆ แถมผมก็นั่งของผมอยู่ดี ๆ หันไปเจอน้องคนหนึ่งหน้าตา มาคุ มองมาทางผมแบบแปลกๆ คือน้องจะหน้าบึ้งเพื่อ !!(มาคุงมอง น้องเขาคงไม่ได้เพิ่งเรียนคุมอง มานะ อะไรหว่า งงเหมือนกันเขียนเพื่อ?)มาต่อกันครับ รอบๆผมมองซ้าย ขวา ซ้าย ๆ มีแต่คนใช้ Smartphoneกันทั้งร้านต้องบอกแบบนี้เลย สมัยนี้ไม่มีแล้วครับ หายากม๊าก(ขอใช้เสียงสูง)ที่ใช้โทรศัพท์ธรรมดาปุ่มกด ไม่มีแล้ว(แต่มีนะพ่อผมเอง)แล้วแต่ละคนก็นั่งกด ๆ จิ้ม ๆ ทำงานกันไป.... โยง ลาก ดึง
    กลับมาน้องคนนั้นต่อ เราไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เราไม่รู้ว่าเขามาจากไหน แต่ ผมดิ ไม่ใช่เรา รู้ว่าเขามาทำอะไร มากินกาแฟ ไม่ก็นั่งตากลม รอใคร แต่รู้ว่าสายตามองมาทางผมแบบกวนตีนมากดูไปคล้ายๆ เราเคยเป็นอริกันแบบมึง ๆ ๆ  ฆ่า พ่อ กู มึงเหยียบตาปลากู แล้วดูด กาแฟ (อะไรวะน้อง พี่งง !!พี่ก็เสือกเงยหน้าขึ้นมาเห็นซะงั้น.. ก็เพราะน้อส่งกระแสจิตมาแดกพี่อะดิ แล้ว น้องเขาก็ดูดน้ำ ซู๊ดๆๆ แล้วเดินไปหาแม่ง เอ้าก็มีแม่นั่งรออยู่ ที่นั่งก็มีแม่น้องก็นั่งตรงนั้นก่อนพี่อีกแล้วน้องมองหน้า แบบที่มาแย่งที่ประจำน้องซะงั้น...กูงง(นึกในใจ) เอามาเข้าเรื่องกันต่อ (งะน้องแกเดินมามองอีกแล้ว)
    ครับกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปต้องบอกอีกเลยว่านิสัยคนเราก็เปลี่ยนไป มันเป็นกันทั้งสังคมแล้วครับที่ผู้คนส่วนใหญ่กับการใช้โทรศัพท์ที่มันเป็นได้ทุกอย่างใช้ได้ทุกที่แล้วก็ทำให้เหมือนกับว่า ตัวกูเป็นของกูจริงๆ คือ กูจะทำอะไรก็ได้ทำไม ไม่แคร์สังคม ไม่มีมารยาท(หรือเขาคิดว่ามันไม่เสียมารยาทก็ได้มั้งว่าแต่ตอนเรียนมาเขาสอนแบบไหนเหรอ) คือกูนี่มีโทรศัพท์ Smartphone ระบุกันไปเลยดีกว่า ทำไมกูมี BB กูนึกจะหยุด BB ตรงไหนก็หยุด (ซะหยั่งงั้น) หน้าบันไดเลื่อน หน้าลิฟท์ ตรงบันไดทางขึ้นลง หรือ ตรงเคาน์เตอร์จ่ายเงิน ก็เรื่องของเค้า ทำไมหละกำลัง คุคุ จุ๊บุ๊ ๆ อยู่ทำไมเหรอ ครานี้ถ้ามันไม่รบกวนคนอื่นมันก็ปกติ แต่นี่พี่เล่นไม่สนใจ กันเลยของเขาใส่ถุงแล้วเงินหละพี่หยิบจ่ายดิ มัวแต่ งุงิ ๆ เดี๋ยวก็หัวทิ่มหรอกพี่ คนเขายืนรอกันเพียบ นี่ มึงหันมาดูบ้างไหม (โอ้ลืมไปข้างหลังกูก็ งุงิ ๆอยู่)เอ้าเดี๋ยวจะหาว่าเจาะจงแต่ BB มะ มา iphone บ้าง มันมีทุก เครื่องหละครับ ไอ้ที่มันสามารถจิ้ม พิมพ์ๆได้ น้องนึกจะถ่ายรูปจะ facebook น้องก็ทำ บันไดทางลง ทางขึ้น คนเขาจะขึ้นจะลงกันไม่ใช่ที่ว่างๆ ก็จัดกันเต็มที่ประมาณว่าพวกมึงๆ ที่เดินผ่านกูเป็นตัวประกอบฉากชีวิตรักของกรูsสองคน นึกจะถ่าย ชูสองนิ้ว ทำทางคิขุ แล้วโพส แล้วแชร์ก็ทำกัน แม่ง!!นึกในใจ กูอยากยันให้ตกบันไดรักกันไปทั้งคู่ ขวางครับ ขวางทางคนเขาสัญจร รู้จักไหม หรือว่า อี ๆ ไอ้ ๆ ที่เดินผ่านนี่มันไม่มีมารยาทกันวะคนจะถ่ายรูปไม่มีมารยาทกันเลย เสือกเดินอยู่ได้ ก็เป็นอีกประเด็นครับ เอ้าสาวกหุ่นเขียว มาโดนกะเขาบ้าง Smartphonระบบ android ก็เป็นโทรศัพท์อีกระบบปฏิบัติการครับที่มันเก่งมาก คนใช้กันเยอะไม่แพ้ BB และ iphone แล้วก็มันมีให้เลือกเยอะมากหลายรุ่นหลายแบบ แล้วมันก็ทำได้เยอะทำได้ทุกอย่างเหมือนกัน แล้วสิ่งที่มาพร้อมกับผู้ใช้ หุ่นเขียวก็คือ ความเกรียน     ไอ้คำนี้จริงๆ มันไม่น่าจะเป็นคำน่าชื่นชม น่าสรรเสริญ  ซักเท่าไหร่นัก แต่วัยรุ่นยุคนี้ ถ้าใครเกรียน สุดๆ จนเรียกว่าสุดตีน นี่มันจะดูหล่อมาก เทห์มาก(ไหงเป็นงั้นวะ)นี่ก็ไม่แคร์ เหมือนกัน กูจะทำไรนี่กูเก่ง เพราะใครๆก็รู้ ใครใช้ android แล้วเกรียนๆ นี่มักจะพูดว่าใครใช้ iphoneโง่ ก็ไม่รู้ทำไมเป็นงั้นไป แล้วผมใช้ทั้ง iphone แล้ว โทรศัพท์ระบบ android นี่มันคงอยู่กลางๆ ไม่โง่ไม่ฉลาดมั้งนี่ เรื่องตรงนี้ผมปล่อยไปครับ (แต่ไม่ผ่านนะ)ก็อย่างที่บอกในเมื่อโทรศัพท์สมัยนี้มันทำอะไรได้หลายๆ อย่าง พวกกูก็ทำทุกอย่างที่พวกกูอยากทำ อยากจะยืน ๆ  twitter อยากจะ  checkinที่ไหนก็ต้องหยุดก่อน  กลัวตำแหน่งมันเคลื่อน  แล้วเพื่อนกะแฟนจะเข้าใจผิด หามึงกันไม่เจอ หยุดซะงั้น กำลังจะออกจจาก รถไฟฟ้า กูก็ต้องหยุดขวาง ทวิต ก่อนว่า ถึงแล้ว กำลัง ออกจากรถไฟฟ้า มึงไม่ต้องบอก ขออย่างเดียวมึงเดินออกไปก่อน มันขวาง!!!
                เยอะครับ จบๆ ดีกว่าเดี๋ยวหยาบติดนิสัยไป เอาเป็นว่าวันนี้มีอารมณ์ระบายแล้วกันครับ ผมไม่ได้ว่าทุกคนนะครับ โปรดเข้าใจ แต่ผม ด่าเลยครับกับคนที่ทำมารยาทแบบนี้ อย่างที่เขียนไปครับเมื่อโลกมันเจริญขึ้นเทคโนโลยีเจริญมาก แต่กลับกลายเป็นว่าคนเราเจริญถดถอยลง ทุกเรื่องรวมถึงความคิด (ความคิดดี ทำดี มารยาท) ทุกอย่างมันเหมือนทำให้คนเราคิดไปว่าการที่มี Smartphone ดี ๆ หรูๆ แพงๆ ใช้นั่นคือมารยาทของสังคม เพราะฉะนั้นการที่ใช้มันตรงไหนตามใจก็ดูเหมือนกับว่าจะไม่เสียมารยาท (ทั้งที่จริงโคตรจะมารยามทรามเลย)ทั้งที่จริงเทคโนโลยีน่าจะทำให้คนเราเจริญขึ้นเพราะมันทำให้อะไรๆง่ายขึ้นสะดวกชึ้น ความสะดวกกลับทำให้คนเราเสียมารยาทเพิ่มขึ้น (ซะงั้นอย่างนั้น..อีกรอบ) ถ้าถามว่าคนที่ไม่ทำแบบนี้มีไหมตอบได้เลยว่ามี ผมนี่หละไม่ได้ยกยอตัวนะครับ แต่ผมไม่มีอะไรไม่มีใครให้แชร์ มั้งครับ?
                ปล.ทิ้งท้ายผมเคยขึ้นรถเมล์ร้อนๆ แน่ ๆ แล้วมีเด็กนังเรียน พานิชย์ขึ้นมา บอกตามตรงผมจำหน้า จำชื่อ จำโรงเรียงได้แม่นเลย อยากจะประจานแต่ไม่เอาดีกว่า พวกเธอขึ้นมาเป็นกลุ่ม ทีแรกผมกะจะลุกไม่ก็ถือของให้ แต่เห็นพอขึ้นมาก็ BBกันเลย ทั้งๆ ที่มือก็ถือของเต็มไปหมด แต่ไม่หาอะไรจับ เอากะเขาดิ แล้วก็เสียงดังโวยวาย ผมเลย เข้าใจไปเองว่า เออน้องเขาเก่ง ก็คงปล่อยน้องยืนไปละกัน อีกมือถือของอีกมือBBได้ ผมมันผู้ชายอ่อนแอแถมใจหมา ด้วยขอนั่งแล้วกันผมเมื่อยประกอบกับน้องสองคนในกลุ่มพูดมาว่า เอ้ยเสียดังไม่เป็นไรหรอกเพราะรถเมล์มันเป็นที่สาธารณะไม่ต้อเกรงใจใครไม่มีใครว่าเราได้" แล้วก็เอามือตบกัน โหน้องสวยมาก คิดได้ไงวะ อยากสะกิดแล้วบอกดังๆ ว่า น้องจ๋าเข้าใจอะไรผิดป่าว ที่สาธารณะเป็นที่ต้องมีมารยาทเฟ้ยครูสอนมาแบบนี้เหรอ เสียชื่อโรงเรียนหมด แต่บอกตามตรงไม่กล้า กลัวโดน ผุ้หญิงต่อย(สวยก็ป่าวรูปร่างก็น่ากลัว ตัวก็ใหญ่ พี่มันอ่อนแอน้องตามสบายเลยครับน้องถูกน้องฉลาดมากที่พูดแบบนี้น้องสวย....ตายหละอีห่านี่)
                นี่หละครับ เจริญแน่ๆประเทศ เพราะเด็กไทยรุ่นใหม่เขาเข้าใจกันซะแบบนี้!!!!