วันอังคารที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2555

เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่

    หลังจากที่เรื่องของไอ้จุกพ้นมลทินไป ผมก็ยอมรับตามตรงเลยว่าไม่รู้จะเขียนอะไรแล้วหละ แต่จนแล้วจนรอดก็มี Tweet "เอี้ยๆ" ลงท้ายว่าเดี๋ยวเรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่"(ขอด่าแรงๆประสาเพื่อนหน่อยแล้วกันนะครับคนเรามันส้นตีนมากโทรไปไม่รับแต่กูTweetห่าอะไรมันเสือกตามตอบได้โดยอ้างเหตุโทรศัพท์เสียเสียงโทรเข้าไม่ได้ยิน อ้าวแล้วมึงไม่ซื้อใหม่เสือกซื้อ Tablet ซึ่งมันอ้างว่าเอามาทำงาน) 

    กลับมาเรื่องประโยคที่ว่า "เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่" โดยส่วนตัวผมเข้าใจต้องเป็นข่าวอะไรใหญ่โตแน่ๆเช่น มีการฟ้องร้องเรื่องครูลวนลามเด็ก หรือ เด็กตบตีกัน เลยออกไปหาหนังสือพิมพ์หัวเขียว หัวดำอะไรดู แต่พลิกไปพลิกมาก็ไม่เจอ? จนเจ้าของร้านหนังสือมองหน้า(ทีแรกกะจะถามเขาไปว่า "มองอะไีรเดี๋ยวเรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่" แต่ก็ไม่กล้าครับกลัวเขางง เลยโทรไปหาไอ้ตัวต้นตอที่มันชอบTweetตอบผมทุกเรื่องและล่าสุดมันก็Tweetตอบและมีประโยคต่อมาว่า "เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่) จึงได้เรื่องว่า ประโยคนี้เป็นกระแสที่กำลังมีการส่งต่อ(RT)แบบเรียกได้ว่าเป็นกระแสนิยมในช่วงนี้ใครไม่เอาคำนี้มาTweet หรือ RT "แม่งเชย" ผมหละอ๊าย.....อาย โคตรเชยเลย สิ่งที่ทำได้คือกลับบ้านมาถามอากู๋(Google) ซึ่งกู๋แกไม่เคยทำให้ผิดหวัง เพียบครับ แต่มันเป็นแค่คลิปเด็กน้อยใจเพื่อนก็เลยอัดคลิปเชิงต่อว่าเพื่อน บวกอารมณ์ระบาย แค่เนี๊ยะ!! ผมหละงง ทำไมมันเป็นประแสได้ ถึงขนาดมีคนแต่งเพลง ทำคลิปล้อเลียน ทำFan pageให้ด้วย เอ้า..เอากะเขาซิครับ ผมอ่านแล้วก็ไม่เข้าใจเลยว่าแค่นี้นะมันเป็นกระแสได้ ถึงกับต้องลงทุนโทรไปหามัน(มันในที่นี้คือไอ้คุณ9กาลาโต้)อีกหลายรอบเพราะมันไม่รับจนสุดท้ายก็ต้องใช้มุข Tweetหา "ถ้ามึงไม่รับโทรศัพท์กูเรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่" ไวเหมือนจุดธูปครับมันTweetกลับทันควันแล้วรับโทรศัพท์ผมได้ด้วยเอากับมันดิ(ทำเหมือนตอนเรียนมันมีคุณครูชื่อ คุณครูอังคณากะเขาด้วย) ได้เความว่าคนในสังคม Social Network เขา Tweetกันเพียบเรียกได้ว่าใครอยู่ในโลกของ Social Network ไม่พลาดที่จะTweet ประโยคนี้ ซึ่งไม่เว้นทั้ง อาจารย์นักการตลาดชื่อดังก็เอากะเขาด้วย ข่าวก็เอาไปลง มีการสัมภาษณ์กันด้วย "GO SO BIG ม๊าก" ผมถามดังๆ "มันขนาดนั้นเลยเหรอวะโคตรปัญญาอ่อนเลย" ผมนึกในใจ "เรื่องแม่งโคตรปัญญาอ่อนไร้สาระเลย เอามาเป็นกระแสได้ แม่งคนเราเพ้อเจ้อมาก" แต่ก็ดีครับทำให้ผมมีเรื่องเขียนบทความ
    
    เรื่องนี้อันที่จริงผมว่ามันไร้สาระมากและผมก็ไม่สนใจ แต่ทีี่มาเขียนเป็นบทความก็เพราะผมไตร่ตรองดูว่าคนเราบางครั้งมันไม่สมควรเอาเรื่องที่มันไม่น่าจะเข้าเรื่องมาสนใจกัน ถึงขั้นทำให้มันเป็นกระแสถึงขนาดนี้ ถามว่าผิดไหม? ไม่ผิดเลยครับ สนุกได้ ลั้นลากันได้ แต่ขอเจาะจงกับการTweetที่เกิดขึ้นจากบุคคลที่มีคนให้การนับถือ ซึ่งถือว่า มีทั้งคุณวุฒิ และวัยวุฒิ รวมถึงมีชื่อเสียงที่สามารถเอามาใช้เป็นอาวุธสร้างความดังให้ตัวเองได้ในโลกยุค Social Media (Network ด้วย) ผมว่าไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก มันก็เลยทำให้เรื่องนี้เป็นกระแสกันเพิ่มขึ้น ตอบอีก ผมว่าต้องมีคนต่อว่าผมแน่ๆ ทำไมเป็นคนดังเป็นคนมีความรู้Tweetสนุก ๆ ไม่ได้หรือไง ผิดเหรอ คนอื่นเห็นยังไงผมไม่รู้ แต่โดยส่วนตัวผม ตอบได้ว่า "มันไม่เหมาะสมครับ" ไม่งั้นจะยกย่องทำไมว่าผู้นั้นมี คุณวุฒิและ วัยวุฒิ... จบแบบนี้เลยแล้วกัน  
    
    มาถึงการพูดถึงน้องคนนั้นว่าผิดไหมได้รับผลอะไรไหมผมว่าคงมีคนรู้เรื่องเยอะแล้ว บอกตามตรงผมสงสารคุณครูอังคณาเลยครับ เท่าที่หาข้อมูลในอากู๋ ท่านดังไปแล้ว มีคนหาข้อมูลท่านมาลง เอารูปท่านมาลง คนโทรหาท่านเพียบ(ครูดังแล้ว) แต่ผมคิดกลับนะครับ เรื่องนี้มีผลกระทบอะไรไหมต่อหน้าที่การงานของท่าน จะถูกเบื้องบนตำหนิอะไรไหม จะมีคนต่อว่าท่านไหม อันนี้บอกตามตรงผมไม่คิดจะตามข่าวท่านต่อครับ(สงสารท่านจริงๆ) แล้วน้องคนนั้นจะบาปไหมผมไม่รู้แต่มันเป็นผลกระทบไปแล้วหละน้องผมบอกได้แค่นี้ ทั้งหมดมันผิดที่ไม่น่าเป็นกระแสจากคนที่มีคุณวุฒิ และวัยวุฒิ Social Media มันน่าจะนำมาใช้ในเชิงสร้างสรรค์และมีประโยชน์มากว่านี้ครับ....

    วันนี้คงไม่มีรูปอะไรลงนะครับเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลมากๆครับแต่อยากให้ดูให้อ่านความคิดเห็นของบุคคลากรหลายๆท่านครับ
อันนี้อาจเป็นผลสะท้อนถึงสังคมนะครับ

ศธ.หวั่นกระแส'ครูอังคณา'ลาม จี้ผู้ปกครอง-ครูดูแลใช้แท็บเลต
บทความจากข่าวนี้มันก็สะท้อนเรื่องแท็บเลตที่กำลังจะมีให้เด็กใช้ในอีกไม่นานนี้ครับ

วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555

สมภารเซ้งโบสถ์

ต้องขอขอบคุณ VDO อัปโหลดโดยคุณ  ครับผม

    เสาร์ที่ผ่านมาเจ้า้ของ Blog กาแฟ ชวนไปเดินชมงานแสดงสินค้า ประมาณว่าชวนเราไปจะได้หา idea ใหม่ๆด่าชาวบ้านกันซะอย่างงั้น รวมถึงคุณท่านเองจะได้หาเรื่องจะมาลง Blog ของตัวเองด้วย พูดกันประสาเพื่อนๆ แม่งเอาคุ้ม ไปที่เดียวได้หลายต่อ ถามว่าผมอยากไปไหม? ร้อนอะ คนก็เยอะ แถมเิงินเดือนนี้ก็เอาำไปกินเบียร์แดกเหล้าหมดแล้ว(พูดตรงๆเลย) แล้วก็ยังไม่มีรมณ์เขียน(จบมะ) แต่ก็ไป ระหว่างทางก็คุยกันเรื่อยเปื่อย น้ำตกซกเล็ก(มันยาวเพราะไอ้คำนอกเรื่องนี่หละแต่ก็จะเล่นมีไรมะ?จบม๊ะ!) ว่าอยากให้ผมเขียนเรื่องพระ "ระยำแท้เหลา" แค่นี้ก็เอี้ยพอแล้ว ทั้งๆที่ก็ด่าอยู่บ่้อยๆ ด่าเป็นประจำกับไอ้พวกที่เอาผ่าเหลืองมาหากินแต่จะให้ด่าแบบออกนอกโลกแห่งความเป็นจริงสู่โลกเครือข่าย (Social Network) มันจะดีหรือ? ไม่ดีแน่ครับ เห็นจะไม่เข้าท่าแต่จะเข้าคุกซะก่อน "ผมบอกแล้วเสนอกันได้แต่ิอาจไม่เขียน" อย่างที่บอกในFanPageที่มีคนLikeกันน้อยนิด ส่วนใหญ่จะหนักไปในทางกดไล่กันซะเยอะ "ถ้ามีปุ่มนี้นะ" แล้วไอ้เลวนี่ก็เกิด พุทธิไอเดียหรอกให้ผมฟังเพลงเพลงหนึ่งว่า "เออมีเพลงคาราบาวให้ฟังมึงต้องชอบแน่ๆ" ผมสวนทันที "กูไม่ชอบ" (ป๊มไม่ได้ว่าปี้แอ๊ดนะครับ) ผมไม่ค่อยชอบฟังเพลงเพื่อชีวิตเพราะชีวิตปกติส่วนใหญ่ของผมมันก็บัดซบอยู่แล้ว ด้วยความเป็นคนตามใจชาวบ้านแบบไม่ทันตั้งตัวมันเอาหูฟังยัดใส่รูหู(ไม่รู้รูเดียวกับน้องจ๊ะอะป่าว)แล้วเปิดทันที แล้วมันก็ถามว่า  "เป็นไง" (เออกูขอฟังก่อน) จบเพลง!!ชอบครับเออโดนใจหันไปฮากับเนื้อเพลงแล้วบอกมันเออหวะพี่แกไปโดนใครโกงที่มาก่อนหรือป่าววะ หรือว่า แกเคยโดนพระโกงเงิน แต่งซะนึกว่าเป็นชีวิตจริงของแกเลย ขอย้ำอีกรอบ"เหมือนเคยโดนมากับตัว(แต่งได้ใจมาก)" (ในที่นี้คำว่า "แก" คือป๋าแอ๊ด) ต้องบอกนะครับถึงผมไม่ชอบฟังเพลงเพื่อชีวิต แต่เพลงของป๋า(แอ๊ด)เท่าๆที่เคยฟังเพลงมามันตรงกับชีวิตปกติชนมากครับมันถึงได้เรียกว่าเพลงเพื่อชีวิต มันเหมาะสมจริงๆ

    สมภารเซ้งโบสถ์ แล้วยังไงมันถึงมาเป็นบทความได้ จะฟังไหมยาวนะ เรื่องมันเกิดตั้งแต่สมัยพระเ้จ้าอโศกมหาราช ไปตีเมืองย่างปู(พอเนอะ) จบๆ....

    ก่อนที่ผมและเพื่อนจะแยกกันเขียน Blog โม้หน่อยว่าเคยทำรายการวิทยุ online ซึ่งยุบไปละ ก็ทำกับไอ้เจ้าของ Blog ที่ชอบ รีวิวร้านกาแฟ ตอนเด็กให้พาไปเที่ยวแล้วแอบไปนั่งร้านกาแฟตอนเด็กเดินซื้อของ(มันใช้มุขว่าแก่แล้ว เมื่อยแล้ว ไปเดินคนเดียวได้ไหมส่วนตัวมันขอหาร้านนั่งรอ ที่ไหนได้มันแอบไปนั่งร้านกาแฟและรีวิวกันซะอย่างนั้น เอ้าลุกขึ้นครับ เชิญยืนอาลัยให้เด็กมันหน่อย) ซึ่งรายการที่ทำก็หนีไม่พ้น ประเภทตามด่า ตามทะลวงไส้พวกใช้ผ้าเหลืองหากิน เรียกว่าเห็นมายังไงก็เอามาด่าอย่างนั้น ได้ยินได้ฟังมาแบบไหนก็เอามาด่ากันซะให้หนำใจ สุดท้ายด้วยความกระเบื้องของ คุณท่าน "ตากาลาโต้" เลยต้องเลิกจัดไป ก็พอดีครับไม่งั้นป่านนี้อาจไม่พ้นแดน วรเวช ณ.บางขวาง ก็เป็นไปได้(เข้าใจกันเอาเองแล้วกันนะครับคำนั้นไม่อยากให้มีอะกลัว!! ผมก็ไม่ยอมเลิกตามด่าอยู่ครับแต่เปลี่ยนแนวจากด่าอยู่กลุ่มเดียว กลายเป็นด่าแม่้งทั้งจักรวาล จนมีคนถามว่าชีวิตไม่พบเจอะเจอคนดีบ้างเหรอ ขอไวท์บอร์ดครับ ตอบครับ "เจอครับแ่ต่น้อยมาก" ซึ่งก็เป็นที่มาของBlog armopenmind และ Fanpage  อกแตก(ศูนย์บรรเทาคนคับอก คับใจ) ซึ่งจริงๆแล้ว อกแตกเป็นชื่อของช่วงหนึ่งช่วง ของรายการที่ได้เคยจัดกันครับ มันก็คล้ายๆกับบทความของBlog นี้หละครับที่เห็นอะไรไม่ถูกไม่ควรมาก็เอามาด่า ๆ ๆ ซะไม่งั้นไม่ได้ระบายแล้วอกจะแตก ขอเชิญร่วมกันไว้อาลัยรายการด้วยครับ

    กลับมาที่เพลงสมภารเซ้งโบสถ์ ผมฟังแล้วมันโดนหลายประโยค ชอบมากับเด็กนรกฟังแล้วฮาไ้้ด้ใจที่นี้จะมาพูดเนื้อเพลงทุกประโยคมันก็ยาวอีกแน่ ๆ ก็เอาท่อนที่ผมฟังแล้วโดนมาก ม๊าก (ต้องเขียนยังไงถึงจะออก แนวมากแบบ เซาะกราวได้หว่า) มาเขียนดีกว่าครับ 
    
   ปล.โปรดฟังเพลงปรากรอบแล้วมันจะIN(อันที่จริงให้ฟังไปด้วยอ่านไปด้วยจะได้อ่านไม่รู้เรื่อง)

สมภารเลี่ยมเป็นพระใจถึง ทั้งๆที่ปากไม่ค่อยตรงกับใจ ถึงจะบวชได้ไม่นานเท่าไหร่ แต่ความหัวไวแกจึงได้เป็นสมภาร  ประโยคนี้ผมไม่รู้น้า(เดี๋ยวน้าเดี๋ยวป๋าอย่าถือเอาอารมณ์ผมเป็นอารมณ์นะครับ) แกสื่อถึงอะไรยังไงแต่ผมเข้าใจว่า น้าแกด่าแดก ประมาณว่า ชื่อเลี่ยมเลยหัวไว หัวใสแบบ หัวแหลม หัวเหลี่ยม(อุ๊บไปพาดตีน เอ้ยพาดผิงใครป่าววะ)และไอ้ความฉลาดเลยได้ชื่อเสียงยศศักดิ์ ความไว้วางใจแบบไ้ว้...ไว 

ก็แล้วใครจะเชื่อเด็กสร้าง บ้านมากกว่าเชื่อสมภารที่สร้างโบสถ์สดใหม่   ตรงๆดีครับกับท่อนนี้กับการเปรียบว่า คนที่ทำประโยชน์หรือทำอะไีรให้ตัวเองเป็นที่รู้ว่าทำประโยชน์นั้นเพื่อสังคมมักได้รับความเชื่อถือยกย่องเป็นธรรมดา แล้วถ้าอยู่ๆ เกิดมีใครก็ไม่รู้มาว่าหรือกล่าวหาว่าคนนั้นเป็นคนไม่ดีใครจะเชื่อทั้งๆ ที่มันอาจเป็นความจริง และไอ้คนที่พูดหละจะโดนว่ากล่าวกลับ ชีวิตจริงมันก็เป็นแบบนี้กันเยอะ 

รังษีของโบสถ์มันบังตา เสริมสร้างศรัทธาให้ผู้คนเห็นใจ แม้เรื่องอาบัติจะตามมาอีกมากมาย มันซุกมันซ่อนอยู่ในจีวรกันวุ่นวาย แต่ผลสุดท้ายไอ้จุกต้องถูกไล่ออก..จากวัด  ตรงตัวครับก็ประโยชน์ทำไว้ให้เยอะใครจะเชื่อว่านั้นเป็นฉากปิดบังความเลวทรามหละครับ ผิดกับไอ้เด็กซึ่งพูดความจริงแต่ไม่ได้ทำประโยชน์ให้ใครประจักษ์ ความจริงก็ถูกเบียดบังจากความลวงหลอกได้ ปกติชีวิตจริงๆ 

แต่สัจธรรมก็ปรากฎเป็นจริง เมื่อสมภารเซ้งโบสถ์ให้กับเจ๊ก ชื่อว่าเถ้าแก่เสกเจ้าสัวเมืองสิงค์ ถูกกฎหมายชอบธรรมมันก็จริง แต่สิ่งที่ไม่เหลือคือความศรัทธา...ศรัทธา...ความศรัทธาที่เงินตราซื้อไม่ได้ ความศรัทธาของประชาชนไทย ความศรัทธาที่ไม่เหลืออีกต่อไป เมื่อผู้คนจับได้ หลังสมภารเซ้งโบสถ์   อันนี้งงไปใหญ่เมืิองสิงค์ไหนหว่า จะว่าสิงห์บุรีเหรอก็ไม่ได้เขียนแบบนั้นนี่หว่า(ป๋าสื่ออะไรผมงงหวะ) แต่คำว่าความศรัทธานี่หละครับสร้างทุกสิ่งได้ เอาศรัทธามาโกโหกันมันง่ายด้วย เอาศรัทธามาเป็นฉากกั้นความชั่ว ในเมื่อคนเราศรัทธาโดยไม่ใตรตรอง ก็ต้องรอความจริงปรากฏครับว่าแต่เมื่อไหร่ กว่าจะถึงตอนนั้นก็ไม่เหลืออะไรแล้วครับ 

ทุกวันนี้ฟ้ามีตาครับ แต่เปิดตาข้างเดียว อีกข้างนึงปิด? 

    สุดท้ายจบเพลง เข้าใจว่าประชาชนรู้ว่าสมภารเป็นอย่างไร ไอ้จุกมิได้โกหก แต่ไม่รู้ครับว่าเรื่องราวต่อจากนั้นจะเป็นอย่างไร สมภารโดนกระทืบ หรือหนีไป ดูไบ ไอ้จุก เป็นเด็กเร่ร่อนข้างถนน หรือใครรับไปเลี้ยง ชาวบ้านจะให้มันบวชแล้วยกวัดให้มันดูแลหรือป่าว ไม่รู้แน่ครับ ผมว่าน้าแกก็คงไม่ต้องการแต่งต่อ ไปถามแก แกอาจจะถามกลับว่า "มึงกวนตีนกูเหรอ" ป่าวนะน้า และผมก็ไม่คิดจะถาม ผมขอคิดของผมไปเองคนเดียว แต่ผมจะบอกต่อว่า ถูกต้องแล้วครับ(ทำปากจู๋ๆ ยืนมือออกไปชี้ด้วยนิ้วชี้เล็กน้อยแบบเสี่ยตา) ทุกอย่างมันจบแบบเลือนหายไป ก็เพราะว่า คนไทยเป็นแบบนี้หละครับ ไม่ว่าเรื่องอะไรเดี๋ยวเวลาผ่านไปมันก็จะลืม เหมือนกับคำที่บอกว่า "คนไทยลืมง่าย คนใจดีให้อภัยง่าย" ผมขอถามกลับครับว่า "จริงหรือ? ลืมง่ายใจดี หรือว่าคนไทยไม่ชอบแก้ไขครับ ทำอะไีรที่ผิดไปแล้วปล่อยให้มันผ่านไปเพราะรับความจริงไม่ได้ว่าตัวเองเคยทำผิดพลาด มันคือการหลอกตัวเองหรือป่าวครับ?"

    สุดท้ายถามหน่อยว่าหลวงตาแกทำไรบ้างอะครับในเพลง ใครตอบผมหน่อยบทบาทแกมีแค่นี้เหรอแกไม่ช่วยอะไรไอ้จุกเลยเหรอ ทำไมแกเงียบเลยอะ 

ขอขอบคุณภาพจาก http://www.isnhotnews.com
ภาพนี้ไม่มีอะไรขอคาราวะแด่ คาราบาวและน้า ป๋า ลุง แอ๊ด แล้วแต่ใครจะเรียกแล้วกันนะขอรับนายท่าน 

    ก่อนจบ ระหว่างเขียนน้องมันถามว่าพี่ไม่กลัวพวกโรยดอกไม้ กับ สี...เกลียดเอาเหรอ โห!! มีคนดูถึงขนาดนั้นเลยเหรอครับ ก็ต้องบอกว่า ผมเพิ่งอ่านเนื้อหาของเพลงว่าแต่งโดยมีเนื้อหามาจากเรื่่องอะไีรประมา๊ณไหน อย่างไร จาก คุณ  ที่อัพโหลด MV เพลงนี้ ซึ่งผมก็ไม่รู้จริง ๆ นะครับว่าจริงแท้แล้วเป็นอย่างนั้นไหม แต่จากเนื้อเพลงก็เออหวะมันไม่เกี่ยวกับสมภารเลยนี่หว่า  เมืองสิงค์ เมืองสิงห์บุรี และเจ๊กชื่อว่าเถ้าแก่เสก นึกว่าแกด่าเหมารวมคนไทยเชื้อสายจีนคนไหน ก็นึกอึนๆไม่พอใจอยู่นิดๆ แล้วสุดท้ายก็ต้องอ๋อ เออหวะ ภาพใน MV มันก็ชัดซะด้วย แล้วอีกอย่างนึงตอนนี้กำลังเป็นที่พูดถึงกันถึงเรื่องพระ แต่ก็คิดว่าคงไม่ไหวแน่ถ้าเขียนไปคงสบาย(ผมชอบกินข้าวมันไก่ซะด้วยข้าวสี ๆ ไม่ค่อยชอบถึงวิตามินมันจะเยอะ พอดีนึกถึงเพลงนี้ได้เลยหามาเปิดฟัง แล้วมันเกิดอาการคัน...ห.. (หัตถา) ขึ้นมาก็เ่ท่านั้นเอง